ปารีณา แจ้งความ น้องหมวย แต่งชุดนักเรียนในม็อบ ชูป้ายโดนครูอนาจาร

ปารีณา แจ้งความ น้องหมวย แต่งชุดนักเรียนในม็อบ ชูป้ายโดนครูอนาจาร

ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขตราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ ระบุว่า เลิกงานแล้วมาแจ้งความค่ะ มากล่าวโทษเพื่อดำนเนินคดีน้องหมวย  ตามพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ในมาตรา 7 คือผู้ใดแต่งเครื่องแบบนักเรียนโดยไม่มีสิทธิที่จะแต่งหรือแต่งกายเลียนแบบเครื่องแบบนักเรียน ถ้าได้กระทำเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นนักเรียน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. น้องหมวยได้แต่งกายเลียนแบบเครื่องแบบนักเรียน 

และได้กระทำเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นนักเรียน ที่ถูกครูทำอนาจารภายในโรงเรียน ต่อหน้าสื่อต่างชาติ ในที่สาธารณะ จนทำให้สถาบันครูและสถาบันโรงเรียนไทย เสียหาย ไปทั่วโลก มาแจ้งเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีหากพบว่าครูได้ทำอนาจารกับน้องหมวยจริง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่หมดอายุความ

หลายครั้ง ที่นักเรียนถูกครูล่วงละเมิศทางเพศ แต่ก็อีกหลายครั้ง ที่ครูถูกนักเรียนสร้างเรื่องใส่ร้าย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก และครูไม่ได้เลวทุกคน จึงขอความเป็นธรรมให้กับครู โรงเรียน และน้องหมวย

ถึงแม้จะไม่มีมีร่องรอยในการทำอนาจาร แต่ก็จะต้องมีผู้พบเห็นเป็นพยานบ้าง มีคนรับรู้บ้าง เช่น ควรมีการสอบครูทั้งโรงเรียน สอบเพื่อนนักเรียนในอดีตและปัจจุบัน สอบหมอที่น้องอ้างว่าไปรักษาความป่วยที่โรงพยาบาล หากมีข้อเท็จจริง จะต้องปรากฏพยานบ้าง

สุดท้ายหากพบว่าครูได้ทำผิดจริง สมควรติดคุกและออกจากครูไป แต่หากสุดท้ายกลายเป็นเรื่องราวของเด็กเลี้ยงแกะ เป็นเรื่องราวของนางแบบคอสเพลที่ถูกจ้างมาให้วันหนึงใส่ชุดชั้นเดินในม๊อบ และอีกวันให้ใส่ชุดนักเรียนแสร้งเป็นนักเรียนร้องให้ต่อหน้าสื่อต่างชาติ ทำลายชื่อเสียงประเทศ สังคมควรได้รู้ และถูกลงโทษตามกฏหมาย

ครูและโรงเรียนควรดำเนินคดีกลับ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สุดท้าย ไม่ว่าภาพของน้องหมวยจะย้อนแย้งว่าน้องถูกทำอนาจาร หรือน้องชอบทำอนาจาร สังคมจะมาตั้งคำถามซักแค่ไหน ขอวอนทุกท่านอย่าเพิ่งตัดสินครู โรงเรียน และน้องหมวย ให้รอเจ้าหน้าที่ทำงานนะคะ

ทางปลัดกระทรวง อุตสาหกรรม ได้ออกมาเปิดเผยถึงมาตรการ “รถเก่า แลก รถใหม่” ไว้ว่าจะต้องรอข้อสรุปไปอีก 15 วัน ถึงจะยืนยันได้ว่าจะนำมาตรการมาใช้งานหรือไม่ นายกอบศักดิ์ สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการออกมาเปิดเผยถึงมาตรการ “รถเก่า แลก รถใหม่” ของรัฐบาลว่า ตัวมาตรการน่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินภายใน 15 วัน โดยตัวมาตรการดังกล่าวเป็นการส่งต่อผ่านกันมาจากหลายหน่วยงาน เพื่อทำการกระตุ้นความต้องการรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนเป็นรถยนต์สมัยใหม่อีกด้วย

นอกจากนี้ นายกอบศักดิ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยมาตรการนี้ยังอยู่ในช่วงของการบรูณาการร่วมกันของหลาย ๆ หน่วยงานที่จะให้มีการประชุมต่อเนื่องในการขับเคลื่อนต่อไป ว่าจะมีการดำเนินการในระยะที่ 2 หรือไม่ รถเก่าที่มาเข้าร่วมมาตรการจะต้องมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ และในแต่ช่วงอายุรถจะเปิดให้รับแลกได้เท่าไหร่ และมีมากน้อยเพียงใด

ในส่วนสุดท้ายก็คือ การอุดหนุนด้านภาษี ก็ได้มีการยืนยันว่าทางรัฐบาลไม่ได้เสียผลประโยชน์ในการจัดเก็บรายได้จากภาษี เพราะจะให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่ภาษีสรรพสามิตก็คงให้มีการจัดเก็บจากตัวรถยนต์ต่อไป ทางด้านของการจัดการกับรถยนต์เก่านั้น ทางค่ายรถ หรือผู้ที่สนใจก็จะต้องมีการอุดหนุนในส่วนนี้ด้วยตนเอง

ม็อบ25พฤศจิกา เผยจุดนัดชุมนุม ก่อนไปสำนักทรัพยสิน

ม็อบ25พฤศจิกา เผย จุดนัดชุมนุม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนไปสำนักทรัพยสินพระมหากษัตริย์ รายงานความคืบหน้าการชุมนุม ม็อบ 25 พฤศจิกายน ล่าสุด เฟซบุ๊ก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า เมื่อสำรวจความเคลื่อนไหวพบว่า ก่อนหน้านี้ โรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้ประกาศหยุดเรียนในวันที่ 25 พ.ย. 2563 เป็นเวลา 1 วัน เพื่อเลี่ยงม็อบ เนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้สถานที่ชุมนุม และมหาวิทยาลัยสวนสุนันทาก็ประกาศหยุดเรียนเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ด้านศึกษาธิการเอง ได้ออกประกาศ เรื่อง การทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศึกษาธิการ หลังจากที่ผู้ชุมนุม คณะราษฎร ได้ประกาศนัดชุมนุมที่สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย. ให้ข้าราชการทำงานอยู่บ้าน

ส่วนการเดินทาง การจราจรในบริเวณใกล้กับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ม็อบ25พฤศจิกา : บช.น. แนะเลี่ยงถนนรอบ สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการชุมนุมฯ  และให้ใช้เส้นทางอื่นแทนตามลิงก์ด้านล่าง

กรณีที่ 4 จำเลยโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ทำนองว่า อำเภอบางบัวทอง และบางใหญ่ จ.นนทบุรี มีผู้ติดเชื้อโควิดแล้วแต่มีการปิดข่าว ศาลพิพากษาให้จำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) และตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 จำคุก 2 ปี ปรับ 30,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษครึ่งหนึ่ง ให้รอลงอาญา

เนื่องจากพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) เอาผิดการโพสต์ “ข้อความอันเป็นเท็จ” ที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน เมื่อพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ถูกนำมาใช้ควบคู่ไปกับข้อห้ามตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันไม่เป็นความจริงและทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว จึงอาจเป็นความผิดทั้งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ไปพร้อมๆ กันหรือเป็น “การกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท” ศาลจึงพิพากษาลงโทษตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เพียงข้อหาเดียวในฐานะบทกฎหมายที่มีโทษหนักกว่า ไม่ได้ลงโทษตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 โดยตรง

แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี